วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อันตรายจากการใช้โทรศัพท์ รังสี แสงสีฟ้า แสงสีขาว ทำลายดวงตา สัญญาณเตือน ตาเสื่อม

ไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นปัจจัยที่ 6 ในการดำรงชีวิต ทำงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานส่งผลเสียต่อดวงตาเสื่อมก่อนวัยอันควร
http://sawarosfarm.blogspot.com/2016/12/blog-post.html
สัญญาณอันตราย ดวงตา สายตาเสื่อม
สัญญาณเตือน ตาเสื่อม
© กรุงเทพธุรกิจ สัญญาณเตือน ตาเสื่อม
เภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ กล่าวว่า ดวงตา ถือเป็นอวัยวะที่ละเอียดอ่อน เราจึงต้องดูแลและให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เราต้องใช้ดวงตาในการทำงานมาก ทั้งการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ การที่ดวงตาต้องกระทบแสงแดดโดยตรง การดูโทรทัศน์ในระยะใกล้เกินไป หรือแม้แต่การใช้สมาร์ทโฟนตลอดเวลา ก็ล้วนแล้วแต่ทำลายดวงตาของเราด้วยกันทั้งสิ้น

แต่พฤติกรรมการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนดูเหมือนจะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อสายตาของหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน ซึ่งพบว่าโรค Computer Vision Syndrome หรือ ซีวีเอส กลายเป็นโรคยอดฮิตของคนยุคดิจิทัลไปแล้ว ดังนั้น เราจึงควรหันมาสังเกตดวงตาของเราว่ามีความผิดปกติจากสัญญาณเตือนดวงตาเสื่อมกัน
มีอาการแสบตา เคืองตา คันตา
โดยปกติคนเราจะต้องกระพริบตาอยู่ตลอดเวลา โดยมีอัตราการกระพริบตาประมาณ 20 ครั้งต่อนาที เพื่อเกลี่ยน้ำตาให้คลุมผิวตาให้ทั่ว แต่หากจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เรากระพริบตาลดลงกว่า 60% ทำให้ผิวตาแห้ง แสบตา เคืองตา คันตา หากเป็นมากจะเกิดอาการตาแดง ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดเบ้าตา มีอาการอ่อนล้าทางประสาทตาได้
ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน
มักเกิดกับคนที่ใช้สายตาจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกันโดยเฉลี่ยมากกว่า 3.5 ชั่วโมงขึ้นไป การเพ่งมากจนกล้ามเนื้อตาอ่อนล้า ทำให้ในเริ่มแรกอาจมีอาการคล้ายคนสายตาสั้น ต้องจองมองใกล้ ๆ ต่อมาจะรู้สึกตาพร่ามัว มองเห็นเป็นภาพซ้อน แต่อาการจะดีขึ้นหากได้พักสายตา
เมื่อยตา ตากระตุก
เมื่อดวงตาต้องเพ่งหรือจับจ้องอยู่กับหน้าจอที่มีแสงจ้าหรือแสงสะท้อนเป็นเวลานาน ๆ หรือการใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนในห้องที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อหนังตาเกร็งตัวจนผิดปกติ อาการเริ่มต้นอาจมีแค่การกระตุกเกร็งของกล้ามเนื้อตาไม่มาก ทำให้กระพริบตาถี่ขึ้นกว่าปกติ หากเป็นมากขึ้นกล้ามเนื้อหนังตาจะเกร็งจนต้องกระพริบตาแรง ๆ
ปวดกระบอกตา การใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ ในการจ้องและเพ่งหน้าจอเกินกว่า 6 ชั่วโมง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดกระบอกตา โดยจะมีอาการปวดบริเวณระหว่างหัวคิ้ว ไปจนถึงศีรษะ หากยังคงใช้สายตาจ้องมองต่อไป จะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น ตามัว วิงเวียน และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้
สัญญาณเตือนต่าง ๆ ของดวงตา อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้ในระยะยาวเสี่ยงต่อโรคดวงตาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจอประสาทตาเสื่อม ต้อกระจก และต้อหินได้ ซึ่งจะส่งผลให้ตาบอดเมื่อสูงอายุได้ ดังนั้น เราจึงควรหันมาให้ความใส่ใจดวงตาของเราตั้งแต่เนิ่น ๆ เริ่มจากการปรับพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยอย่าจ้องมองหน้าจออุปกรณ์เป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกัน
ควรพักสายตาทุก ๆ 15-20 นาที และปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม ไม่จ้าจนเกินไป อาจจะเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงที่หน้าจอเพื่อลดแสงจ้าที่สะท้อนสู่ดวงตา ไม่ควรใช้สมาร์ทโฟนในห้องนอนที่มืดหรือมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ควรเว้นระยะห่างของหน้าจอและสายตาให้เหมาะสมโดยประมาณ 20-30 ซม. และควรวางหน้าจอในมุมที่พอดีกับหน้า อย่าวางหน้าจอต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปหลีกเลี่ยงการนอนเล่นสมาร์ทโฟนบนเตียง ที่สำคัญ หนุ่มสาวยุคดิจิทัล ไม่ควรติดแชท ติดเกมบนมือถือจนนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะยังเป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลต่อสุขภาพตาเสื่อมอีกด้วย หากพบความผิดปกติของดวงตา ควรรีบไปปรึกษาจักษุแพทย์โดยทันที
รังสีต่างๆแสงสีฟ้า อันตรายมากไหม ที่นี่มีคำตอบครับ

https://plus.google.com/+panraphee/posts/jATXVyHvjzf
ทุกๆปัญหาย่อมมีทางออก ให้สารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนประกอบสำคัญลูทีนเข้มข้น 90% ช่วยดูแลดวงตาของท่าน สนใจสอบถามผลิตภัณฑ์ Eye Love By หมอพืชอานนท์ 089-6889946,090-9569093 ไลน์ ไอดี : 0896889946 รับสมัครตัวแทนจำหน่ายส่งต่อความรู้สึกดีๆทั่วประเทศครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น