ไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นปัจจัยที่ 6 ในการดำรงชีวิต ทำงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานส่งผลเสียต่อดวงตาเสื่อมก่อนวัยอันควร
http://sawarosfarm.blogspot.com/2016/12/blog-post.html
สัญญาณอันตราย ดวงตา สายตาเสื่อม
สัญญาณเตือน ตาเสื่อม
© กรุงเทพธุรกิจ
สัญญาณเตือน ตาเสื่อม
เภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ กล่าวว่า ดวงตา ถือเป็นอวัยวะที่ละเอียดอ่อน
เราจึงต้องดูแลและให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เราต้องใช้ดวงตาในการทำงานมาก
ทั้งการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ การที่ดวงตาต้องกระทบแสงแดดโดยตรง
การดูโทรทัศน์ในระยะใกล้เกินไป หรือแม้แต่การใช้สมาร์ทโฟนตลอดเวลา
ก็ล้วนแล้วแต่ทำลายดวงตาของเราด้วยกันทั้งสิ้น
แต่พฤติกรรมการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนดูเหมือนจะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อสายตาของหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน
ซึ่งพบว่าโรค Computer Vision Syndrome หรือ ซีวีเอส
กลายเป็นโรคยอดฮิตของคนยุคดิจิทัลไปแล้ว ดังนั้น
เราจึงควรหันมาสังเกตดวงตาของเราว่ามีความผิดปกติจากสัญญาณเตือนดวงตาเสื่อมกัน
มีอาการแสบตา เคืองตา คันตา
โดยปกติคนเราจะต้องกระพริบตาอยู่ตลอดเวลา
โดยมีอัตราการกระพริบตาประมาณ 20 ครั้งต่อนาที
เพื่อเกลี่ยน้ำตาให้คลุมผิวตาให้ทั่ว แต่หากจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน
ๆ จะทำให้เรากระพริบตาลดลงกว่า 60% ทำให้ผิวตาแห้ง แสบตา เคืองตา คันตา
หากเป็นมากจะเกิดอาการตาแดง ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดเบ้าตา
มีอาการอ่อนล้าทางประสาทตาได้
ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน
มักเกิดกับคนที่ใช้สายตาจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานาน
ๆ ติดต่อกันโดยเฉลี่ยมากกว่า 3.5 ชั่วโมงขึ้นไป การเพ่งมากจนกล้ามเนื้อตาอ่อนล้า
ทำให้ในเริ่มแรกอาจมีอาการคล้ายคนสายตาสั้น ต้องจองมองใกล้ ๆ
ต่อมาจะรู้สึกตาพร่ามัว มองเห็นเป็นภาพซ้อน แต่อาการจะดีขึ้นหากได้พักสายตา
เมื่อยตา ตากระตุก
เมื่อดวงตาต้องเพ่งหรือจับจ้องอยู่กับหน้าจอที่มีแสงจ้าหรือแสงสะท้อนเป็นเวลานาน
ๆ หรือการใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนในห้องที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ
จะส่งผลให้กล้ามเนื้อหนังตาเกร็งตัวจนผิดปกติ
อาการเริ่มต้นอาจมีแค่การกระตุกเกร็งของกล้ามเนื้อตาไม่มาก
ทำให้กระพริบตาถี่ขึ้นกว่าปกติ หากเป็นมากขึ้นกล้ามเนื้อหนังตาจะเกร็งจนต้องกระพริบตาแรง
ๆ
•ปวดกระบอกตา
การใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ ในการจ้องและเพ่งหน้าจอเกินกว่า 6 ชั่วโมง
เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดกระบอกตา โดยจะมีอาการปวดบริเวณระหว่างหัวคิ้ว
ไปจนถึงศีรษะ หากยังคงใช้สายตาจ้องมองต่อไป จะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น
ตามัว วิงเวียน และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้
สัญญาณเตือนต่าง ๆ ของดวงตา
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้ในระยะยาวเสี่ยงต่อโรคดวงตาต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นจอประสาทตาเสื่อม ต้อกระจก และต้อหินได้
ซึ่งจะส่งผลให้ตาบอดเมื่อสูงอายุได้ ดังนั้น
เราจึงควรหันมาให้ความใส่ใจดวงตาของเราตั้งแต่เนิ่น ๆ
เริ่มจากการปรับพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โดยอย่าจ้องมองหน้าจออุปกรณ์เป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกัน
ควรพักสายตาทุก ๆ 15-20 นาที และปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม
ไม่จ้าจนเกินไป อาจจะเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงที่หน้าจอเพื่อลดแสงจ้าที่สะท้อนสู่ดวงตา
ไม่ควรใช้สมาร์ทโฟนในห้องนอนที่มืดหรือมีแสงสว่างไม่เพียงพอ
ควรเว้นระยะห่างของหน้าจอและสายตาให้เหมาะสมโดยประมาณ 20-30 ซม.
และควรวางหน้าจอในมุมที่พอดีกับหน้า อย่าวางหน้าจอต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปหลีกเลี่ยงการนอนเล่นสมาร์ทโฟนบนเตียง ที่สำคัญ
หนุ่มสาวยุคดิจิทัล ไม่ควรติดแชท ติดเกมบนมือถือจนนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
เพราะยังเป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลต่อสุขภาพตาเสื่อมอีกด้วย หากพบความผิดปกติของดวงตา
ควรรีบไปปรึกษาจักษุแพทย์โดยทันที
รังสีต่างๆแสงสีฟ้า อันตรายมากไหม ที่นี่มีคำตอบครับทุกๆปัญหาย่อมมีทางออก ให้สารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนประกอบสำคัญลูทีนเข้มข้น 90% ช่วยดูแลดวงตาของท่าน สนใจสอบถามผลิตภัณฑ์ Eye Love By หมอพืชอานนท์ 089-6889946,090-9569093 ไลน์ ไอดี : 0896889946 รับสมัครตัวแทนจำหน่ายส่งต่อความรู้สึกดีๆทั่วประเทศครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น